เมนู

อิติวุตตกะ ติกนิบาต วรรคที่ 5


1. ปสาทสูตร


ว่าด้วยความเลื่อมใส 3 ประการ


[270] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว พระ-
สูตรนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้า
ได้สดับมาแล้วว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเลื่อมใสอันเลิศ 3 ประการนี้
3 ประการเป็นไฉน ? ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์ไม่มีเท้าก็ดี มี 2 เท้าก็ดี
มี 4 เท้าก็ดี มีเท้ามากก็ดี มีรูปก็ดี ไม่มีรูปก็ดี มีสัญญาก็ดี ไม่มีสัญญาก็ดี
มีสัญญาก็มิใช่ไม่มีสัญญาก็มิใช่ก็ดี มีประมาณเท่าใด พระตถาคตอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้า
บัณฑิตกล่าวว่า เลิศกว่าสัตว์ประมาณเท่านั้น ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ชนเหล่าใดเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า ชนเหล่านั้นชื่อว่าเลื่อมใส
ในบุคคลผู้เลิศ ก็และผลอันเลิศย่อมมีแก่บุคคลผู้เลื่อมใสในพระพุทธเจ้าผู้เลิศ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขตธรรมก็ดี อสังขตธรรมก็ดี มีประมาณ
เท่าใด วิราคะ คือ ธรรมเป็นที่บรรเทาความเมา นำเสียซึ่งความระหาย
ถอนขึ้นด้วยดีซึ่งอาลัย ตัดซึ่งวัฏฏะ สิ้นไปแห่งตัณหา สิ้นกำหนัด ดับ นิพพาน
บัณฑิตกล่าวว่าเลิศกว่าสังขตธรรมและอสังขตธรรมเหล่านั้น ดูก่อนภิกษุ-
ทั้งหลาย ชนเหล่าใดเลื่อมใสในวิราคธรรม ชนเหล่านั้นชื่อว่าเลื่อมใสในธรรม
อันเลิศ ก็ผลอันเลิศย่อมมีแก่บุคคลผู้เลื่อมใสในธรรมอันเลิศ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขตธรรมมีประมาณเท่าใด อริยมรรคมีองค์
8 คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ

สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ บัณฑิตกล่าวว่าเลิศกว่าสังขตธรรม
เหล่านั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ชนเหล่าใดเลื่อมใสในธรรมคืออริยมรรค ชน
เหล่านั้นชื่อว่าเลื่อมใสในธรรมอันเลิศ ก็ผลอันเลิศย่อมมีแก่บุคคลผู้เลื่อมใส
ในธรรมอันเลิศ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หมู่ก็ดี คณะก็ดี มีประมาณเท่าใด หมู่สาวก
ของพระตถาคต คือ คู่บุรุษ 4 บุรุษบุคคล 8 บัณฑิตกล่าวว่าเลิศกว่าหมู่และ
คณะเหล่านั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ชนเหล่าใดเลื่อมใสในพระสงฆ์ ชนเหล่านั้น
ชื่อว่าเลื่อมใสในหมู่ผู้เลิศ ก็ผลอันเลิศย่อมมีแก่บุคคลผู้เลื่อมใสในพระสงฆ์
ผู้เลิศ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเลื่อมใสอันเลิศ 3 ประการนี้แล.
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า
เมื่อชนทั้งหลายเลื่อมใสแล้วใน
พระรัตนตรัยที่เลิศ โดยความเป็นของเลิศ
รู้แจ้งธรรมอันเลิศ เลื่อมใสแล้วในพระ-
พุทธเจ้าผู้เลิศ ซึ่งเป็นทักขิไณยบุคคลผู้
ยอดเยี่ยม เลื่อมใสแล้วในธรรมอันเลิศ
ซึ่งเป็นที่สิ้นกำหนัด และเป็นที่สงบ เป็น
สุข เลื่อมใสแล้วในพระสงฆ์ผู้เลิศ ซึ่ง
เป็นบุญเขตอย่างยอดเยี่ยม ถวายทานใน
พระรัตนตรัย ที่เลิศ บุญที่เลิศย่อมเจริญ
อายุ วรรณะ ยศ เกียรติคุณ สุขะและ
พละอันเลิศย่อมเจริญ นักปราชญ์ถวาย

ไทยธรรมแก่พระรัตนตรัยที่เลิศ ตั้งมั่นอยู่
ในธรรมอันเลิศแล้ว เป็นเทวดาหรือเป็น
มนุษย์ก็ตาม เป็นผู้ถึงควานเป็นผู้เลิศ
บันเทิงอยู่.

เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้า
ได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล.
จบปสาทสูตรที่ 1

อรรถกถาปสาทสูตร


ในปสาทสูตรที่ 1 แห่งวรรคที่ 5 พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
อคฺค ศัพท์นี้ ในคำว่า อคฺคปฺปสาทา นี้ปรากฏ (ในความหมายว่า)
เบื้องต้น ที่สุด ส่วน และประเสริฐที่สุด. จริงอย่างนั้น อคฺค ศัพท์ นี้
ปรากฏในความหมายเบื้องต้น เช่น (ในประโยค) ว่าสหายผู้เฝ้าประตูเอ๋ย
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะปิดประตูสำหรับนิครนถ์ และนิครันถีทั้งหลาย
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (เรา) ถึง (พระรัตนตรัย) เป็นที่ระลึกตลอดชีวิต.
ปรากฏในความหมายที่สุด เช่นในประโยคมีอาทิว่า เอาปลายนิ้วนั้นนั่นแหละ
ลูบปลายนิ้วนั้น (และ) ปลายอ้อยและปลายไม้ไผ่. ปรากฏในส่วน เช่นใน
ประโยคมีอาทิว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ส่วนแห่งขาทนียโภชนียะที่มีรสเปรี้ยว
ก็ตาม ส่วนแห่งขาทนียโภชนียะที่มีรสหวานก็ตาม ส่วนแห่งขาทนียโภชนียะ
ที่มีรสขมก็ตาม เราตถาคตอนุญาตให้แจกแบ่งกัน ตามส่วนแห่งวิหาร หรือ
ตามส่วนแห่งบริเวณ. และปรากฏในความหมายว่า ประเสริฐที่สุด เช่นใน